ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)  บริษัท ฟินลิค จำกัด

           

ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)

บริษัท ฟินลิค จำกัด

 

          ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) นี้ จัดทำขึ้นโดย บริษัท ฟินลิค จำกัด (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริษัท” เพื่อให้ท่านได้ทราบถึงนโยบายของบริษัทที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

          โดยประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวจะแจ้งให้ทราบถึงการดำเนินการของบริษัท ในฐานะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ประเภทข้อมูลและวัตถุประสงค์ในการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และวิธีการติดต่อกับบริษัท ดังนี้


1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้

  1. -   ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล  เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง ลายมือชื่อ ตำแหน่งงานและหน่วยงาน ที่อยู่ หมายเลขติดต่อ อีเมล เสียง  รูปถ่าย ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เป็นต้น
  2. -   ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ เช่น ข้อมูลการติดต่อและสื่อสารกับคนอื่น หมายเลข IP ข้อมูลเครือข่ายมือถือ ข้อมูลการเชื่อมต่อ ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง บันทึกการเข้าออกเว็บไซต์ ประวัติการใช้เว็บไซต์ ความถี่ ช่วงเวลา ข้อมูลการทำธุรกรรม พฤติกรรมการใช้งาน เป็นต้น
  3. -   ข้อมูลจราจรทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในแพลตฟอร์ม เช่น Zoom  Line Meeting  Microsoft Teams Google Meet Webex รวมถึงการบันทึกเสียง หรือทั้งเสียงและภาพ ของผู้ร่วมประชุมทุกคนตลอดระยะเวลาที่มีการประชุม
  4. -    ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่จัดเก็บตามวัตถุประสงค์และกิจกรรมของบริษัท

        บริษัทไม่มีนโยบายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่เข้าข้อยกเว้นตามกฎหมายว่าด้วยคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่น


2. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

1) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้จากลงทะเบียนเข้าร่วมอบรมในหลักสูตรต่างๆ การเข้าร่วมงานสัมมนาหรืองานอบรมทั้งแบบกายภาพและผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ข้อมูลกรรมการบริษัท การเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ การจัดซื้อจัดจ้าง การทำสัญญา การเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ ข้อมูลที่ได้จากแพลตฟอร์มหรือสื่อออนไลน์ทุกประเภท เป็นต้น

2) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้จากแหล่งอื่น เช่น คณะ สาขาวิชา มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา หน่วยงานเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการ หน่วยงานภาครัฐ หรือภาคเอกชน บริษัทจะทำการแจ้งถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้จากแหล่งอื่นให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยไม่ชักช้า ภายใน 30 วันนับแต่วันที่เก็บรวบรวม เพื่อขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมตามที่กฎหมายกำหนด

3.วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์และฐานในการประมวลผล ดังนี้

วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
การลงทะเบียนและเข้าร่วมอบรมในหลักสูตรกฎหมายฟอกเงิน สำหรับผู้มีหน้าที่รายงาน
  1. 1) การปฎิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) เนื่องจากเป็นการอบรมหลักสูตรตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ว่าด้วยการจัดให้มีการฝึกอบรมให้แก่ผู้มีหน้าที่รายงานตามมาตรา 13 และมาตรา 16 พ.ศ. 2563 ประกอบกับประกาศสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินว่าด้วยการจัดให้มีการฝึกอบรมให้แก่ผู้มีหน้าที่รายงานตามมาตรา 13 และมาตรา 16 พ.ศ. 2563 ออกตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 21/3
  2. 2) การปฏิบัติตามสัญญา (Contract)
  3. 3) ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)
การเก็บข้อมูลจราจรทางอิเล็กทรอนิกส์หรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในแพลตฟอร์ม
  1. 1) การปฎิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) คือ ประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เรื่อง มาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2563 ออกตามพระราชกำหนดว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2563
  2. 2) การปฏิบัติตามสัญญา (Contract)
การทำแบบทดสอบหลังการอบรมและการเฉลยแบบทดสอบผ่านระบบ Line group
  1. 1) การปฏิบัติตามสัญญา (Contract)
  2. 2) ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)
การดำเนินงานตามสัญญา/คู่ค้าของบริษัท
  1. 3) การปฏิบัติตามสัญญา (Contract)
  2. 4) ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)
การดำเนินงานด้านการเงิน / บัญชี
  1. 1) การปฎิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) ได้แก่ ประมวลรัษฎากร กฎหมายว่าด้วยการบัญชี 
  2. 2) ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)

การประชาสัมพันธ์ข่าวสาร การประชาสัมพันธ์กิจกรรมของบริษัท เช่น การส่งอีเมลข่าวสาร  

ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย  (Legitimate Interest)
การดำเนินการกับข้อมูลของกรรมการบริษัท
  1. 1) การปฏิบัติตามสัญญา (Contract)
  2. 2) การปฎิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
  3. 3) ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย  (Legitimate Interest)
การจัดการประชุมคณะกรรมการบริษัท  การประชุมใหญ่สามัญประจำปี และการประชุมอื่น ๆ
  1. 1) การปฎิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
  2. 2) ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย  (Legitimate Interest)
การเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์บนเว็บโซต์ของบริษัท
  1. 1) การปฎิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) ได้แก่ กฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
  2. 2) ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย  (Legitimate Interest)
การประมวลผลข้อมูลของลูกค้าจากการใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชันและโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของบริษัท เช่น Facebook, Twitter, YouTube, Line เป็นต้น
  1. 1) การปฏิบัติตามสัญญา (Contract)
  2. 2) ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย  (Legitimate Interest)
การรักษาความปลอดภัยของสถานที่ เช่น การเก็บข้อมูลผู้ติดต่อบริษัท ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย  (Legitimate Interest)

 


4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล


บริษัทอาจเปิดเผยหรือส่งข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อใช้ในกิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคล นิติบุคคลหรือหน่วยงานดังต่อไปนี้

  1. 1) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
  2. 2) กรรมการบริษัท ที่ปรึกษาบริษัท เจ้าหน้าที่บริษัท ผู้รับจ้าง หรือตัวแทนของบุคคลดังกล่าว
  3. 3) บุคคลภายนอกที่ให้บริการด้านต่างๆ แก่บริษัท เช่น บริษัทผู้รับจ้าง บริษัทผู้รับจ้างช่วง ผู้จัดทำบัญชี ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบภายนอก
  4. 4) วิทยากรของหลักสูตรและผู้ตรวจประเมินความถูกต้องของหลักสูตร
  5. 5) บุคคลที่เข้าร่วมอบรมในระบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือแพลตฟอร์มออนไลน์
  6. 6) บุคคลที่เข้าร่วมอบรมใน Line Group
  7. 7) เจ้าหน้าที่ ผู้ประสานงาน ตัวแทนของบริษัทที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสังกัด
  8. 8) ผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท
  9. 9) การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะและบุคคลทั่วไป ผ่านช่องทางสื่อหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ของบริษัท และการประกาศผ่านอื่นประเภท เช่น Social Media หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์

ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะมีวัตถุประสงค์โดยเฉพาะเจาะจง ภายใต้ฐานทางกฎหมาย และมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสม

บริษัทอาจมีการจัดเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์ หรือคลาวด์ (Cloud) ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่นและอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นในรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มสำเร็จรูปในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยของข้อมูลที่เหมาะสม

นอกจากนี้ บริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น กรมการปกครอง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม เป็นต้น


5. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล


          บริษัทกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และมีระยะเวลาจัดเก็บข้อมูล เป็นดังนี้
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาจัดเก็บข้อมูล
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บโดยฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย 5 ปี
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บโดยฐานปฏิบัติตามสัญญา 10 ปีหลังสิ้นสุดสัญญา
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บโดยฐานปฎิบัติตามกฎหมาย ระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาการเก็บรักษาและไม่มีเหตุให้ต้องเก็บรักษาข้อมูลสวนบุคคลนั้นต่อไป บริษัทจะทําการลบหรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

       

6. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

          สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังต่อไปนี้

  1. (1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม

           ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช่หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคทีท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจํากัดสิทธิโดยกฎหมาย

  1. (2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

          ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัททำสําเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทได้

  1. (3) สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล

          ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตัวท่านจากบริษัทได้ ในกรณีที่บริษัทได้ทําให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทํางานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทําได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทําได้

  1. (4) สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

          ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้ หากข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมได้โดยได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมตามมาตรา 24 (4) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เว้นแต่บริษัทพิสูจน์ได้ว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น บริษัทมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สําคัญยิ่งกว่า หรือการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นไปเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิ เรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

  1. (5) สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล

          ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทดําเนินการลบ หรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
(ก) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจําเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
(ข)เมื่อท่านถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทไม่มีอํานาจตามกฎหมายที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ต่อไป
(ค) เมื่อท่านคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทไม่อาจปฏิเสธคําขอได้
(ง) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

     ทั้งนี้ บริษัทจะไม่ดําเนินการลบหรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคลตามรายละเอียดข้างต้น หากเป็นการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การเก็บรักษาไว้เพื่อวัตถุประสงค์ตามมาตรา 24 (4) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 การใช้เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย

  1. (6) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

 ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีดังต่อไปนี้

     (ก) เมื่อบริษัทอยู่ในระหว่างการตรวจสอบตามที่ท่านร้องขอให้ดําเนินการแก้ไข
    (ข) เมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทําลาย แต่ท่านขอให้ระงับการใช้แทน
 (ค)เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจําเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล แต่ท่านมีความจําเป็นต้องขอให้เก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย  
    (ง)เมื่อบริษัทอยู่ในระหว่างการพิสูจน์ตามมาตรา 32 (1) เพื่อปฏิเสธการคัดค้านของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรา 32 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

(7) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัท แก้ไข ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
(8)สิทธิในการตรวจสอบและยื่นข้อร้องเรียน หรือตรวจสอบกรณีข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล หรือมีการใช้ หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และประกาศที่ออกตามกฎหมาย

    ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทตามช่องทางติดต่อ เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้นได้ และบริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านภายใน 30 วันนับแต่วันที่บริษัทได้รับคำร้องขอดังกล่าว

7. ช่องทางการติดต่อบริษัท


ชื่อผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล  บริษัท ฟินลิค จำกัด
ช่องทางติดต่อ:
อีเมล : thailawtraining@gmail.com
โทรศัพท์ : 02-077-5801 มือถือ 084-113-5533 , 095 – 951 -0017
ที่อยู่ : 553/240 ถนนประชาอุทิศ แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ 10140
     

สำนักงาน

สมาคมรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เลขที่ 8/82 ถนนงามวงศ์วาน
แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่
กรุงเทพมหานคร 10210

บริษัท ฟินลิค จำกัด
553/240 ถนนประชาอุทิศ แขวงทุ่งครุ่
เขตทุ่งครุ่ กรุงเทพฯ 10140

Add friends